Top People Trend 2020

พอมีเวลาประสาคนอยากรู้อยากเห็น ก็นั่งอ่าน HR Trend ของบรรดาสำนักตะวันตก แล้วเอาที่น่าสนใจมาเล่าก็น่าจะมีสัก 7 เรื่อง

    1. People Data Driven
      โลกปัจจุบันเราขับเคลื่อนกันด้วยข้อมูลที่แม่นยำ แต่การจัดการคนโดยธรรมชาติมักจะเป็นนามธรรม ถ้าไม่พยายามหา สร้างข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ สุดท้ายเราจะก้าวไปสู่การพัฒนาที่ถูกต้องได้ยาก จะให้ AI วิเคราะห์ก็ต้องมี Data ไม่เช่นนั้นฉลาดแค่ไหนก็เอ๋อได้เหมือนกัน เมื่อคิดเช่นนี้แล้วหันมาดูว่าระบบข้อมูลขององค์กรท่านพร้อมหรือยัง ตัวอย่างง่ายๆ ท่านมีข้อมูลเหล่านี้ในระบบ Digital หรือไม่ เช่น JD ทุกตำแหน่ง ประวัติการทำงานทั้งในและก่อนเข้าบริษัท ผลงาน การปรับค่าจ้างในอดีต Competency ทักษะความเชี่ยวชาญ ยิ่งไปถึงกีฬาที่ชอบ ทักษะภาษา งานอดิเรก ประวัติการรักษาพยาบาล ข้อมูลเหล่านี้สำคัญต่อการวิเคราะห์เพื่อการบริหารคนให้ถูกต้อง แม่นยำทั้งสิ้น พูดง่ายๆ ถ้าไม่มี Data ก็ไม่มีการจัดการที่ดี
    2. HR Effectiveness
      ต่อเนื่องจากข้อ 1 เมื่อฐานข้อมูลคุณดี จะวิเคราะห์ประสิทธิภาพการบริหารออกมาเป็น Intelligence Report ได้แม่นยำ โดยเฉพาะใน model hr effectiveness 5 ด้าน People Cost , Motivation , Competence , Talent และ Integration คุณจะสามารถทราบได้ว่าค่าใช้จ่ายด้านคนของบริษัท ทั้งหมดเป็นเท่าไรต่อต้นทุนรวม มันมีการจ่ายแบบไม่มีประสิทธิภาพที่ตรงไหน หรือแรงจูงใจคนตอนนี้มีอยู่เท่าไร เรื่องอะไรที่ไม่ดีต้องรีบแก้ไข และที่นักพัฒนาคนอยากได้ที่สุดคือพนักงานมีความสามารถคิดเป็นกี่ % ตามมาตรฐานของงาน อันนี้สุดยอด เมื่อเราทราบค่าเหล่านี้ก็นำไปสู่การจัดการคนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
    3. From Digitalize to Personalize HR
      เราพูดถึง HR Tech , HR Digital กันมาหลายปีแล้ว แต่การทำให้เรื่องนี้เกิดประโยชน์กับพนักงานยังทำได้ไม่เต็มที่นัก หลายระบบยังไม่มีแม้แต่ให้พนักงานเข้ามาใช้ข้อมูลของตนเองได้ หรือพวก Self Service ต่างๆ ฝั่งตะวันตกเองก็ยังให้ความสำคัญกับ HR Tech มากโดย Upgrade มันขึ้นอีกเป็น Personalize มากขึ้น เช่นพนักงานสามรถ Customize Personal Page ได้ ดึงข้อมูลของตัวเองไปใช้ได้มากขึ้น ตั้งค่ารับ ไม่รับ ข้อมูลได้ด้วยตนเอง มี Service ที่เป็นเฉพาะบุคคลมากขึ้น เป้าหมายสุดท้ายของเรื่องนี้มี 2 ด้านนะครับ บริษัทมีข้อมูลจากการที่พนักงานใส่เข้าไปให้เอง กับพนักงานมีความพอใจมากขึ้นที่ได้ใช้ข้อมูลของตนเอง ในประเด็นนี้ก็อย่าลืมให้พนักงานเค้าให้ความยินยอมด้วยนะครับ เพราะ กม.ใหม่ การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต้องได้รับความยินยอม หากชี้แจงให้เห็นประโยชน์ที่จะเกิดกับเค้าก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร
    4. HRDOO
      เล่ามาตั้งแต่กลางปีถึง HR Department of One เรื่องมาแรงสุดของตะวันตกตอนนี้ มันเป็นการ Upskill HR Business Partner ขึ้น แล้วลด HR Specialist หรือ Center of Expertise ลง ตรงตามชื่อเลยครับ ต่อไป HR บริษัทขนาดกลาง ขนาดเล็กจะเหลือเพียงคนเดียว ทำงานเท่ากับทั้ง Department จะไปแบบนี้ได้ก็ต้องมีเครื่องมือคือ HR Tech ดีเยี่ยม และมีผู้ช่วยคือ Outsource กับ Consult มากมาย Trend นี้บ้านเราน่าจะเริ่มเข้ากันปีหน้าบ้างแล้ว
    5. Upskill / Reskill for Downsizing
      ผมเห็น HRD นำเรื่อง Upskill / Reskill เข้ามาเป็นแผนงานแล้วก็สนุกไปด้วย แต่อยากบอกทาง HRM ว่าท่านก็เกี่ยวเช่นกัน เพราะจุดจบของเรื่องนี้คือลดคน หลายครั้งมันเป็นจุดเริ่มเสียด้วยซ้ำว่าเราจะลดงาน ควบอัตรา ตรงไหนก็ไปพัฒนาคน upskill เสียให้ทำได้หลายด้าน มันก็จะลดคนลงไป อันนี้ต้องลงไปจัดการนะครับ ถ้าปล่อยเป็นการ upskill แต่คนไม่ลดมันจะไปไม่สุด ไม่ได้ผลลัพธ์ที่สะท้อนให้ฝั่งบริษัทอย่างชัดเจน เรื่องลดก็ค่อยๆ ทำไปแบบธรรมชาติก็ได้ คนเกษียณ คนลาออกก็จำกัดการรับทดแทนเสียอันนี้ก็พอจะไปได้ครับ
    6. They’re comming , Gen Z
      อยากจะบอกว่าเราสิ้นสุด Generation Y แล้วนะครับ อันที่จริง Gen Z เริ่มเข้ามาสู่ที่ทำงานได้เกือบ 2 ปีแล้ว และจะเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ ตามเวลาคุณลักษณะของ Z หลายอย่างก็เหมือน Y แถมจะเข้มข้นมากกว่าด้วย และก็มีบางลักษณะที่ไม่เหมือน อันนี้ต้องตามกันให้ทันนะครับ Z จะชอบความมั่นคง ต่างจาก Y ที่ชอบผจญภัย เลยมีการทำนายกันว่า Career ลูกจ้างจะกลับมาเป็นที่ชื่นชอบอีกครั้ง องค์กรก็ต้องปรับตัวให้ความยืดหยุ่นการดูแลที่ดีกับเค้าด้วยนะครับเพราะถึงจะสนใจเป็นลูกจ้างแต่ก็ไม่อดทน ถ้าไม่ได้รับการดูแลที่ดี นิยามการทำงานของ Gen Z ก็คือ “Flexible Security” นะครับ
    7. Change Culture to Culture of Change
      องค์กรยุคใหม่ๆ คงต้องมีความยืดหยุ่นสูง หากจะปรับตามโลก Digital ที่เร็วเสียเหลือเกิน ลูกค้าเปลี่ยนเร็ว ตลาดเปลี่ยน คู่แข่งเปลี่ยน เทคโนโลยีเปลี่ยน ดังนั้นถ้าหากสปีดในการปรับเปลี่ยนภายในขององค์กรท่านช้ากว่าภายนอก ท่านอาจตายได้เลยครับ ภาระกิจของ HR เราคือต้องสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ทีความยืดหยุ่นสูง ตั้งหรือสลายทีมงานได้รวดเร็ว เพื่อตอบสนองเป้าหมายย่อยๆ ที่มีเฉพาะ มุ่งผลลัพธ์สุดท้ายมากกว่ารูปแบบ พร้อมปรับเปลี่ยนได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ยืดติด Concept เช่น Agile ก็เป็นรูปแบบหนึ่ง แต่อยากบอกว่าจะมีตามมาอีกมากมายให้เราได้เลือกใช้กัน ก็บอกแล้วไงว่าต้องพร้อมปรับตลอดเวลา หากมีสิ่งที่ดีกว่า

แนวโน้มเหล่านี้ก็ยังคงดำเนินไป HR Professional คงต้องตื่นตัวเตรียมพร้อม และลงมือทำ เปลี่ยนทฤษฎีให้เป็นผลลัพธ์ จึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด สุดท้ายอยากบอกว่านักคิดก็มีหน้าที่คิด มีของใหม่ๆ ให้พวกเราเรียนรู้อยู่เรื่อยๆ แต่นักปฎิบัติก็ต้องทำความเข้าใจ แล้วเลือกใช้ที่เป็นประโยชน์แก่องค์กร ไม่มีเครื่องมือใดเหมาะกับทุกคน คงต้องเลือกที่ตอบโจทย์ของท่านที่สุด แล้วเปิดใจพร้อมปรับเปลี่ยนนะครับบางเรื่องที่ทำไปแล้ว แต่มีแนวคิดใหม่ที่ดีกว่าก็เปลี่ยนได้ครับ เพราะยุคนี้โลกมันหมุนเร็วจริงๆ ครับ