Blockchain กระทบงาน HR เราอย่างไร ?

ผมตั้งคำถามนี้ด้วยความสงสัยใคร่รู้ เพราะเดิมทีรู้เลาๆ ว่านี่คือเทคโนโลยีหลักอีกตัวที่จะเปลี่ยนโลก แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ยังไม่รู้จักมันดีพอที่จะมองทะลุต่อว่ามากระทบงานพวกเราอย่างไร พอสงสัยก็ลงมือหาความรู้ตามสูตรท่านนายกลุงตู่ ณ ผ้าอนามัย 5555 คือเข้า google ดู youtube ผนวกกับมีน้องรักส่ง link มาให้ดูก็พอจะเข้าใจมากขึ้นว่า Blockchain นี้คือระบบที่ส่งผ่านข้อมูลสำคัญ โดยเปลี่ยนจาก Centerize verify Data ไปเป็น Decenterize มีความปลอดภัยสูงมาก เพราะข้อมูลถูกจัดเก็บพร้อมกันในคอมพิวเตอร์เครือข่ายจำนวนมาก เวลาเรียกใช้จึงมีการสอบทานกันเอง ถ้าตรงกันถูกต้องก็ผ่านได้ ค่าใช้จ่ายถูกหรือไม่มีเลยเพราะตัดตัวกลางเช่นธนาคารทิ้งเสีย รวดเร็วไม่ต้องแปลงภาษาไปมา ไม่ติดขัดที่ตัวกลาง เหมาะอย่างยิ่งกับการส่งข้อมูลสำคัญ หรือมูลค่าที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง ไม่ว่าจะเป็น การโอนเงิน การทำสัญญา การ verify เรื่องสำคัญต่างๆ เอาประมาณนี้แล้วกันใครอยากรู้ลึกก็เจาะดูในโลกออนไลน์มีคนพูดเรื่องนี้ดีๆ เยอะ และประเด็นหลักของผมก็คือแล้ว มันจะถูกนำมาใช้กับงาน HR อย่างไร

  • การจ่ายค่าจ้าง และผลตอบแทน
    แน่นอนครับ blockchain นั้นมีอิทธิพลอย่างมากในวงการทางการเงิน เพราะทำให้การโอนเงินรวดเร็ว ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่เดิมเราโอนเงินเดือนเข้าธนาคารก็มี Transaction Fee เดี๋ยวนี้ก็ลดลงไปถึงไม่มีเลย เมื่อเป็น Blockchain อย่างเต็มที่มันจะขยายไปสู่การโอนข้าม Currency ข้ามประเทศได้ทันทีไม่มีค่าใช้จ่าย หรือในอนาคตพนักงานอาจเลือกขอรับเงินเป็น currency ไหนก็ได้ โดยเฉพาะ cryptocurrency หรือไม่ต่อไปบริษัทอาจไม่จำเป็นต้องโอนเงินเดือนเข้าบัญชีธนาคารแล้ว อาจเป็นโอนเข้ากระเป๋าเงินอิเลคทรอนิกส์ได้โดยตรงเลย ในปัจจุบันเผลอๆ เราอาจใช้งาน Blackchain ไปแล้วโดยไม่รู้ตัวก็ได้
  • การสรรหาบุคลาการ และตรวจสอบประวัติผู้สมัคร
    ประวัติการศึกษา ประวัติอาชญากรรม ประวัติ Certificate ทางอาชีพ ต่อไปก็จะถูกแปลงเข้าสู่ระบบ blockchain เช่นเดียวกับข้อมูลสำคัญทั้งหลายเนื่องจากมีความปลอดภัยสูง ค่าใช้จ่ายต่ำนั่นเองเหล่า HR ก็ต้องปรับตัวแทนที่จะจะขอสำเนาเอกสารมากมาย วิ่งไปตรวจสอบถึงหน่วยงานราชการ ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป เช่นเดียวกับเอกสารสำคัญหลายอย่างที่จะถูกนำมาบันทึกในรูป Blockchain เช่น โฉนด สัญญา ทะเบียน เป็นต้น นึกถึงหากท่านต้องการ Transcript จากมหาวิทยาลัย ซึ่งจบมาเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ท่านก็ต้องไปที่นั่นทำเรื่องขอแล้วรอไปตามระเบียบ เมื่อ blockchain เข้ามาทั้งหมดนี่ท่านสามารถเปิดเครื่องโหลดเอาเองจากที่บ้าน โดยมีความน่าเชื่อถือสูงเสมือนออกจากมหาวิทยาลัยโดยตรง ประเด็นนี้ มีการพูดถึง “value passport” ที่จะรวบรวมความสำเร็จในชีวิตของเรา ลงสู่การรับรองด้วย blockchain สามารถนำไปใช้ในการสมัครงาน การสรรหา คัดเลือก talent ได้อย่างดี ในอเมริกาการให้บริการตรวจสอบประวัตินี้มีความแพร่หลายมาก blockchain จะทำให้การดำเนินการในเรื่องนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • เพิ่มประสิทธิภาพงานบริการ
    Blockchain จะช่วยผลักดันให้เกิด Automation มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน ประวัติทางการแพทย์ ประวัติทางการเงิน ประวัติเครดิตของเรา Blockchain จะช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ด้วยตัวเราเอง เมื่อทำได้เองย่อมรวดเร็วไม่ต้องรอคอย ลดการสูญเปล่าของเวลา และทรัพยากรด้านอื่น
  • การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
    ด้วยพื้นฐานการจัดเก็บข้อมูลแบบ Decenterize นั้น มีความปลอดภัยสูง ปลอมแปลงได้ยากมากเลย จึงเหมาะในการจัดเก็บข้อมูลที่ต้องการความน่าเชื่อถือ และต้องการความปลอดภัยสูงเช่นประวัติบุคลากร ในปัจจุบันบางส่วนเริ่มเข้าไปอยู่บน blockchain กับแล้วเรา คงต้องติดตามต่อไปว่าข้อมูลหลักอย่างประวัติบุคลากรจะตามขึ้นไปอยู่บนนั้นในอนาคตมั้ยคงต้องตามกันต่อไปครับ
    อย่างที่กล่าวนำ Blockchain นั้นเป็นเทคโนโลยีที่อยู่ด้านหลัง เราอาจจะกำลังใช้มันอยู่อย่างไม่รู้ตัว ถ้าสงสัยว่าอะไรเป็น blockchain ให้เดาว่าอะไรที่ทำได้เร็วขึ้นในโลก Digital ไม่ต้องผ่านตัวกลาง มีความน่าเชื่อถือสูง ค่าบริการต่ำหรือไม่มีเลย นั่นแหละอาจจะเป็น Blockchain เราในฐานะผู้ใช้คงได้แต่คอยติดตาม ปรับตัว และอย่ากลัวเทคโนโลยีใหม่ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้คุณภาพชีวิตเราดีขึ้น หากเราไม่สนใจ มีแต่ความยึดติดต่อต้าน เราอาจกลายเป็นเครื่องส่งโทรเลข ในยุคจิตอล มันคงเป็นอะไรที่ล้าหลังน่าดู